โรงเรียนมวยไทย (ตั้งแต่ปี 2540)
รับรองโดย กระทรวงศึกษาธิการ, สภามวยไทยโลก (WMC)
และสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA)
หลักสูตรมวยไทย 1 (ขั้นพื้นฐาน)
ระยะเวลาเรียน : อย่างน้อย 40 ชั่วโมง หรือ อย่างน้อย 10 วันอย่างต่อเนื่อง ภายใน 90 วัน
เวลาเรียน แบ่งเป็น 4 ช่วงเวลา คือ
ช่วงเช้า : 07.00 - 09.00 น.
ช่วงบ่าย : 15.00 - 17.00 น.
หมายเหตุ มาเรียนวันไหนก็ได้ รอบเวลาใดก็ได้ตามความสะดวกจนกว่าจะครบตามจำนวนชั่วโมง หรือ ตามวัตถุประสงค์ที่หลักสูตรกำหนดไว้
โรงเรียนมวยไทยเปิดสอนทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ (หากปิดทำการจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า) โดยทางโรงเรียนจะเก็บตารางบันทึกเวลาเรียน
(Class Record) เอาไว้ให้ท่านเป็นเวลา 90 วัน (นับตั้งแต่วันลงทะเบียน) กรณีที่หยุดหรือขาดเรียนติดต่อกันเป็นเวลาเกิน 90 วันโดยไม่แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ ทางโรงเรียนจะไม่เก็บตารางบันทึกเวลาของท่านและถือว่าหมดอายุการลงทะเบียนโดยอัตโนมัติ ฉะนั้นนักเรียนจะต้องลงทะเบียนเรียนใหม่เท่านั้น
คุณสมบัติของผู้สมัครเรียน :
1. อายุมากกว่า 15 ปี ขึ้นไป สามารเรียนได้ทั้งชาย - หญิง
2.ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับ "วิชามวยไทย" มาก่อน
3. มีสุขภาพและพลานามัยที่สมบูรณ์
หมายเหตุ กรณีที่ผู้สมัครมีโรคประจำตัว เช่น หืด หอบ ฯลฯ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนลงทะเบียนเรียน
วัตถุประสงค์ :
1. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของมวยไทย และธรรมเนียมต่างๆของมวยไทย เช่น การไหว้ครู
2. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมไทย
3. เพื่อให้มีพื้นฐานทางด้านมวยไทยที่ถูกต้อง เช่น การจรดมวย (การการ์ดมวยไทย), การเคลื่อนไหวแบบมวยไทย, การปัดป้องกัน..., การใช้อวัยวะต่างๆของร่างกายเป็นอาวุธ เช่น การออกหมัดพื้นฐาน, การเตะพื้นฐาน เป็นต้น
หมายเหตุ : ก่อนการเรียน (ฝึกซ้อม) นักเรียนควรบริหารร่างกายเป็นเวลาอย่างน้อย 10-15 นาที และหลังจากการเรียน (ฝึกซ้อม) แล้ว นักเรียนควรจะบริหารร่างกาย (Cool down) ประมาณ 5-10 นาที เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
การสอบ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1. การสอบวิชามวยไทย >> หลังจากการเรียนครบ 40 ชั่วโมงแล้ว ทางโรงเรียนจะทำการทดสอบความรู้ความสามารถที่นักเรียนได้เรียนรู้ไปทั้งหมด โดยครูมวยจะเป็นผู้นัดวันสอบ ซึ่งเวลาทำการสอบมีเพียงช่วงเวลาเท่านั้น คือ 14.00 น. โดยมีอาจารย์ผู้สอบจำนวน 3 ท่าน เป็นผู้ทำการสอบ ซึ่งนักเรียนจะต้องมีผลคะแนนเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 60% จะถือว่า "สอบผ่าน" ทางโรงเรียนถือว่าจบหลักสูตรนี้และจะออก "ใบประกาศนียบัตร (MUAYTHAI CERTIFICATE)" และ"ใบผลคะแนนรายบุคคล (MuayThai Transcript)" ซึ่งรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ สภามวยไทยโลก และโรงเรียนมวยไทย
กรณีนักเรียนที่ "สอบตก" สามารถเรียนเพิ่มเติมได้และทำการ สอบซ่อม ใด้อีก 1 ครั้ง ภายใน15วันหลังวันที่ทำการสอบโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น หากยังสอบตกอีก จะต้องทำการลงทะเบียนเรียนใหม่เท่านั้น
2. การทดสอบสมรรถภาพร่างกายรายบุคคล >> เป็นการทดสอบเพื่อเก็บข้อมูลความสามารถทางร่างกายของนักเรียนรายบุคคลโดยการทดสอบนี้ไม่มีผลใดๆต่อคะแนนวิชา "มวยไทย" ทั้งสิ้น โดยแบ่งการทดสอบสมรถภาพทางร่างกายออกเป็น 6 ประเภท คือ
2.1 วิ่งทางตรงสปีด
2.2 วิ่งซิกแซก
2.3 วิดพื้น ภายใน 30 วินาที
2.4 ลุกนั่ง (Squat) ภายใน 30 วินาที
2.5 Sit-up ภายใน 30 วินาที
2.6 ดึงข้อ ภายใน 30 วินาที
ทั้งนี้ทางโรงเรียนมวยไทย ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลักสูตรให้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอทุกๆปี
หลักสูตรมวยไทย 2 (ขั้นกลาง)
ระยะเวลาเรียน : อย่างน้อย 50 ชั่วโมง หรือ อย่างน้อย 13 วันอย่างต่อเนื่อง ภายใน 110 วัน
เวลาเรียน แบ่งเป็น 4 ช่วงเวลา คือ
ช่วงเช้า : 07.00 - 09.00 น.
ช่วงบ่าย : 15.00 - 17.00 น.
หมายเหตุ มาเรียนวันไหนก็ได้ รอบเวลาใดก็ได้ตามความสะดวกจนกว่าจะครบตามจำนวนชั่วโมง หรือ ตามวัตถุประสงค์ที่หลักสูตรกำหนดไว้โรงเรียนมวยไทยเปิดสอนทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ (หากปิดทำการจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า) โดยทางโรงเรียนจะเก็บตารางบันทึกเวลาเรียน(Class Record) เอาไว้ให้ท่านเป็นเวลา 110 วัน (นับตั้งแต่วันลงทะเบียน) กรณีที่หยุดหรือขาดเรียนติดต่อกันเป็นเวลาเกิน 110 วันโดยไม่แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ ทางโรงเรียนจะไม่เก็บตารางบันทึกเวลาของท่านและถือว่าหมดอายุการลงทะเบียนโดยอัตโนมัติ ฉะนั้นนักเรียนจะต้องลงทะเบียนเรียนใหม่เท่านั้น
คุณสมบัติของผู้สมัครเรียน :
1. อายุมากกว่า 15 ปี ขึ้นไป สามารเรียนได้ทั้งชาย - หญิง
2. ควรมีพื้นฐานทางด้านมวยไทยพอสมควร หรือผ่านการจบหลักสูตรมวยไทย 1 มาแล้ว
3. มีสุขภาพและพลานามัยที่สมบูรณ์
หมายเหตุ กรณีที่ผู้สมัครมีโรคประจำตัว เช่น หืด หอบ ฯลฯ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนลงทะเบียนเรียน
วัตถุประสงค์ :
1. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของมวยไทย และธรรมเนียมต่างๆของมวยไทย เช่น การไหว้ครู
2. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมไทย
3. เพื่อให้มีพื้นฐานทางด้านมวยไทยที่ถูกต้อง เช่น การจรดมวย (การการ์ดมวยไทย), การเคลื่อนไหวแบบมวยไทย, การปัดป้องกัน..., การใช้อวัยวะต่างๆของร่างกายเป็นอาวุธ เช่น การออกหมัดขั้นกลาง, การเตะขั้นกลาง เป็นต้น
4. สามารถนำวิชามวยไทยที่ฝึกฝนปฎิบัติมาแล้ว ไปใช้ป้องกันตัว (Self Defense) ได้ในระดับหนึ่ง
หมายเหตุ : ก่อนการเรียน (ฝึกซ้อม) นักเรียนควรบริหารร่างกายเป็นเวลาอย่างน้อย 10-15 นาที และหลังจากการเรียน (ฝึกซ้อม) แล้ว นักเรียนควรจะบริหารร่างกาย (Cool down) ประมาณ 5-10 นาที เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
การสอบ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1. การสอบวิชามวยไทย >> หลังจากการเรียนครบ 50 ชั่วโมงแล้ว ทางโรงเรียนจะทำการทดสอบความรู้ความสามารถที่นักเรียนได้เรียนรู้ไปทั้งหมด โดยครูมวยจะเป็นผู้นัดวันสอบ ซึ่งเวลาทำการสอบมีเพียงช่วงเวลาเท่านั้น คือ 14.00 น. โดยมีอาจารย์ผู้สอบจำนวน 3 ท่าน เป็นผู้ทำการสอบ ซึ่งนักเรียนจะต้องมีผลคะแนนเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 60% จะถือว่า "สอบผ่าน" ทางโรงเรียนถือว่าจบหลักสูตรนี้และจะออก "ใบประกาศนียบัตร (MUAYTHAI CERTIFICATE)" และ"ใบผลคะแนนรายบุคคล (MuayThai Transcript)" ซึ่งรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ สภามวยไทยโลก และโรงเรียนมวยไทย
กรณีนักเรียนที่ "สอบตก" สามารถเรียนเพิ่มเติมได้และทำการ สอบซ่อม ใด้อีก 1 ครั้งภายใน 15 วันหลังวันที่ทำการสอบโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น หากยังสอบตกอีก จะต้องทำการลงทะเบียนเรียนใหม่เท่านั้น
2. การทดสอบสมรรถภาพร่างกายรายบุคคล >> เป็นการทดสอบเพื่อเก็บข้อมูลความสามารถทางร่างกายของนักเรียนรายบุคคล โดยการทดสอบนี้ไม่มีผลใดๆต่อคะแนนวิชา "มวยไทย" ทั้งสิ้น โดยแบ่งการทดสอบสมรถภาพทางร่างกายออกเป็น 6 ประเภท คือ
2.1 วิ่งทางตรงสปีด
2.2 วิ่งซิกแซก
2.3 วิดพื้น ภายใน 30 วินาที
2.4 ลุกนั่ง (Squat) ภายใน 30 วินาที
2.5 Sit-up ภายใน 30 วินาที
2.6 ดึงข้อ ภายใน 30 วินาที
ทั้งนี้ทางโรงเรียนมวยไทย ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลักสูตรให้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอทุกๆปี
หลักสูตรมวยไทย 3 (ขั้นก้าวหน้า)
ระยะเวลาเรียน : อย่างน้อย 60 ชั่วโมง หรือ อย่างน้อย 15 วันอย่างต่อเนื่อง ภายใน 120 วัน
เวลาเรียน แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา คือ
ช่วงเช้า : 07.00 - 09.00 น.
ช่วงบ่าย : 15.00 - 17.00 น.
หมายเหตุ นักเรียนมวยไทยระดับ3 ควรหมั่นมาเรียนอย่างสม่ำเสมอเพื่อความต่อเนื่องในการเรียนและฝึกซ้อม, เสริมสร้างกล้ามเนื้อและร่างกายให้แข็งแรงยิ่งขึ้น โดยรอบเวลาเรียนมีวันละ 2 รอบ คือ รอบเช้าและรอบบ่าย เท่านั้น โดยเรียนจนกว่าจะครบตามจำนวนชั่วโมง หรือ ตามวัตถุประสงค์ที่หลักสูตรกำหนดไว้ โรงเรียนมวยไทยเปิดสอนทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ (หากถ้าปิดทำการจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า) โดยทางโรงเรียนจะเก็บตารางบันทึกเวลาเรียน (Class Record) เอาไว้ให้ท่านเป็นเวลา 120 วัน (นับตั้งแต่วันลงทะเบียน) กรณีที่หยุดหรือขาดเรียนติดต่อกันเป็นเวลาเกิน 120 วันโดยไม่แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ ทางโรงเรียนจะไม่เก็บตารางบันทึกเวลาของท่านและถือว่าหมดอายุการลงทะเบียนโดยอัตโนมัติ ฉะนั้นนักเรียนจะต้องลงทะเบียนเรียนใหม่เท่านั้น
คุณสมบัติของผู้สมัครเรียน :
1. อายุมากกว่า 15 ปี ขึ้นไป สามารเรียนได้ทั้งชาย - หญิง
2. ผ่านการจบหลักสูตรมวยไทย 2 มาแล้ว (ขั้นกลาง)
3. มีสุขภาพและพลานามัยที่สมบูรณ์
หมายเหตุ กรณีที่ผู้สมัครมีโรคประจำตัว เช่น หืด หอบ ฯลฯ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนลงทะเบียนเรียน
วัตถุประสงค์ :
1. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของมวยไทย และธรรมเนียมต่างๆของมวยไทย เช่น การไหว้ครู
2. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมไทย
3. เพื่อให้มีความรู้ทางด้านมวยไทยที่ถูกต้อง เช่น การจรดมวย (การการ์ดมวยไทย), การเคลื่อนไหวแบบมวยไทย, การปัดป้องกัน..., การใช้อวัยวะต่างๆของร่างกายเป็นอาวุธ เช่น การออกหมัดขั้นก้าวหน้า, การเตะขั้นก้าวหน้า เป็นต้น และสามรถประยุกต์การใช้อาวุธต่างๆได้ อย่างถูกต้องและแม่นยำ
4. สามารถนำวิชามวยไทยที่ฝึกฝนปฎิบัติมาแล้ว ไปใช้ป้องกันตัว (Self Defense) ได้โดยกึ่งอัตโนมัติ
หมายเหตุ : ก่อนการเรียน (ฝึกซ้อม) นักเรียนควรบริหารร่างกายเป็นเวลาอย่างน้อย 10-15 นาที และหลังจากการเรียน (ฝึกซ้อม) แล้ว นักเรียนควรจะบริหารร่างกาย (Cool down) ประมาณ 5-10 นาที เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
การสอบ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1. การสอบวิชามวยไทย >> หลังจากการเรียนครบ 60 ชั่วโมงแล้ว ทางโรงเรียนจะทำการทดสอบความรู้ความสามารถที่นักเรียนได้เรียนรู้ไปทั้งหมด โดยครูมวยจะเป็นผู้นัดวันสอบ ซึ่งเวลาทำการสอบมีเพียงช่วงเวลาเท่านั้น คือ 14.00 น. โดยมีอาจารย์ผู้สอบจำนวน 3 ท่าน เป็นผู้ทำการสอบ ซึ่งนักเรียนจะต้องมีผลคะแนนเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 60% จะถือว่า "สอบผ่าน" ทางโรงเรียนถือว่าจบหลักสูตรนี้และจะออก "ใบประกาศนียบัตร (MUAYTHAI CERTIFICATE)" และ"ใบผลคะแนนรายบุคคล (MuayThai Transcript)" ซึ่งรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ สภามวยไทยโลก และโรงเรียนมวยไทย กรณีนักเรียนที่ "สอบตก" สามารถเรียนเพิ่มเติมได้และทำการ สอบซ่อม ใด้อีก 1 ครั้งภายใน 15 วันหลังวันที่ทำการสอบโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น หากยังสอบตกอีก จะต้องทำการลงทะเบียนเรียนใหม่เท่านั้น
2. การทดสอบสมรรถภาพร่างกายรายบุคคล >> เป็นการทดสอบเพื่อเก็บข้อมูลความสามารถทางร่างกายของนักเรียนรายบุคคล โดยการทดสอบนี้ไม่มีผลใดๆต่อคะแนนวิชา "มวยไทย" ทั้งสิ้น โดยแบ่งการทดสอบสมรถภาพทางร่างกายออกเป็น 6 ประเภท คือ
2.1 วิ่งทางตรงสปีด
2.2 วิ่งซิกแซก
2.3 วิดพื้น ภายใน 30 วินาที
2.4 ลุกนั่ง (Squat) ภายใน 30 วินาที
2.5 Sit-up ภายใน 30 วินาที
2.6 ดึงข้อ ภายใน 30 วินาที
ทั้งนี้ทางโรงเรียนมวยไทย ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลักสูตรให้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอทุกๆปี
หลักสูตรมวยไทย 4 (ขั้นสูง หรือ ขั้นอาชีพ)
ระยะเวลาเรียน : อย่างน้อย 300 ชั่วโมง หรือ 90 วันอย่างต่อเนื่องภายใน 180 วัน
เวลาเรียน แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา เท่านั้น คือ
ช่วงเช้า : 07.00 - 09.00 น.
ช่วงบ่าย : 15.00 - 17.00 น.
หมายเหตุ ควรจะเรียนและหมั่นฝึกฝนจนกว่าจะครบตามจำนวนชั่วโมง และทำการสอบโดย "การขึ้นชกมวยไทยอย่างน้อย 3-5 ครั้ง"
โรงเรียนมวยไทยเปิดสอนทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ (หากจะปิดทำการจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า) โดยนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนหลักสูตรมวยไทย 4 นี้จะต้องมาเรียนอย่างสม่ำเสมอ วันละ 2 รอบเรียน 6 วันต่อสัปดาห์ หากขาดเรียนอย่างต่อเนื่องเกินกว่า 15 วันโดยไม่แจ้งให้ทราบ ทางโรงเรียนฯถือว่านักเรียนไม่มีความรับผิดชอบ และหมดอายุการลงทะเบียน ฉะนั้นนักเรียนจะต้องทำการลงทะเบียนเรียนใหม่ เท่านั้น
หลังจากเรียนและฝึกซ้อมทำร่างกายจนแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง พร้อมทั้งสามารถป้องกันตัวและออกอาวุธอย่างคล่องแคล่ว คณะครูมวยจะลงความเห็นเพื่ออนุญาตให้ขึ้นแข่งขันมวยไทยอาชีพ โดยทางโรงเรียนมวยไทยจะเป็นผู้ประกบคู่ชกที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งครูมวยจะดำเนินการวางแผนการฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขันอย่างเข้มข้น / หลังจากการแข่งขันเสร็จสิ้น นักเรียนจะมีเวลาหยุดพักผ่อนร่างกายเป็นเวลาอย่าง 5-7 วันขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับอาการบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด) หลังจากนั้นนักเรียนจะต้องกลับมาฝึกซ้อมและทำการแข่งขันอีกครั้งจนกระทั้งครบ 5 ครั้งเป็นอย่างน้อย เพื่อจบและสำเร็จหลักสูตรมวยไทย 4
การฝึกฝนมวยไทยในระดับขั้นสูงหรือขั้นอาชีพนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความอดทน, สมาธิ, ความตั้งใจจริง และจะต้องทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจอย่างมากสำหรับการฝึกซ้อม อีกทั้งจะต้องเป็นบุคคลที่มีความรับผิดชอบต่อตนเองทั้งทางด้านเวลา, การพักผ่อน, การบริโภคอาหาร, การสร้างเสริมกล้ามเนื้อทุกส่วน เป็นต้น
คุณสมบัติของผู้สมัครเรียน :
1. อายุมากกว่า 15 ปี ขึ้นไป สามารเรียนได้ทั้งชาย - หญิง
2. ผ่านการจบหลักสูตรมวยไทย 3 มาแล้ว (ขั้นก้าวหน้า)
3. มีสุขภาพและพลานามัยที่สมบูรณ์
หมายเหตุ กรณีที่ผู้สมัครมีโรคประจำตัว เช่น หืด หอบ ฯลฯ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่พร้อมยื่นใบรับรองแพทย์ ก่อนลงทะเบียนเรียน
วัตถุประสงค์ :
1. เพื่อให้มีความรู้ชำนิชำนาญเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของมวยไทย และธรรมเนียมต่างๆของมวยไทย เช่น การไหว้ครู
2. เพื่อให้มีความรู้ชำนิชำนาญเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมไทย
3. เพื่อให้มีชำนาญทางด้านมวยไทยที่ถูกต้อง เช่น การจรดมวย (การการ์ดมวยไทย), การเคลื่อนไหวแบบมวยไทย, การปัดป้องกัน..., การใช้อวัยวะต่างๆของร่างกายเป็นอาวุธ เช่น การออกหมัดขั้นสูง, การเตะขั้นสูง เป็นต้น มีความรู้อย่างชำนาญทางด้านศิลปะแม่ไม้มวยไทย (Mae Mai MuayThai) (ซึ่งท่าแม่ไม้มวยไทยทั้ง 15 ท่าแม่ไม้นั้น หากฝึกฝนอย่างชำนาญแล้วจะเป็นอาวุธที่รุนแรงอย่างมาก โดยที่ถ้าใช้ท่าแม่ไม้อย่างรุนแรงในตำแหน่งที่สำคัญของร่างกายนั้น อาจจะทำให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บอย่างหนัก หรือพิการ หรือเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นผู้ฝึกฝนจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีสติ และสามารถควบคุมสติตนเองได้) และท่าลูกไม้ต่างๆของมวยไทย (ลูกไม้ คือ เทคนิค หรือ กลยุทธ์ในการป้องกัน-ตอบโต้ คู่ต่อสู้)
4. สามารถนำวิชามวยไทยที่ฝึกฝนปฎิบัติมาแล้ว ไปใช้ป้องกันตัว (Self Defense) ได้โดยอัตโนมัติ
หมายเหตุ : ก่อนการเรียน (ฝึกซ้อม) นักเรียนควรบริหารร่างกายเป็นเวลาอย่างน้อย 10-15 นาที และหลังจากการเรียน (ฝึกซ้อม) แล้ว นักเรียนควรจะบริหารร่างกาย (Cool down) ประมาณ 5-10 นาที เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
การสอบ : หลังจากการเรียนครบ 300 ชั่วโมงแล้ว ทางโรงเรียนจะทำการทดสอบความรู้ความสามารถที่นักเรียนได้เรียนรู้ไปทั้งหมด โดยการขึ้นแข่งขันบนเวทีจริงๆอย่างน้อย 3-5 ครั้ง ถ้านักเรียนสามารถผ่านการทดสอบได้ ทางโรงเรียนถือว่าจบหลักสูตรนี้และจะออก "ใบประกาศนียบัตร (MUAYTHAI CERTIFICATE)" ซึ่งรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ สภามวยไทยโลก และโรงเรียนมวยไทย